เครียด

It is not the load that breaks you down but the way you carry it.

206603 ศุภกร เลาหสงคราม

นักจิตวิทยาเชิงบวก (Positive Psychologist)


เวลาพายุเข้าให้หลบภัย

DALL·E 2023-02-13 10.13.19 - oil painting of a girl taking shelter in a cave from a raging thunder storm by the sea

เวลาพายุของชีวิตถาโถมเข้ามาในชีวิตสิ่งแรกที่เราควรทําคือการหาที่หลบภัย เราไม่สามารถออกจากความเครียดได้ถ้าเรายังหมกมุ่นหรือจมอยู่ในวังวนของสิ่งที่ทําให้เราเครียด ดังนั้นสิ่งแรกที่เราควรทําหากเราทําได้ก็คือ เอาตัวเองออกมา ออกมาจากคน สภาพแวดร้อม งาน หรือ ความกดดันต่างๆที่ทําให้เราเครียด การเอาตัวเองออกมาจากปัญหาไม่ใช่การหนีปัญหา แต่เป็นเพียงการเปิดโอกาสให้ตัวเองได้ตั้งหลักใหม่ เพื่อมาทบทวน เข้าใจปัญหา และเตรียมตัวเตรียมใจที่จะกลับไปสู้และเผชิญชีวิตใหม่อีกครั้งให้ดีกว่าเดิม

ความเครียดแก้ด้วยการผ่อนคลายทั้งทางกายและทางใจ

สิ่งแรกๆที่ควรทําและทําได้ง่ายในการบรรเทาอาการเครียดก็คือการผ่อนคลายทางกาย หลายคนเลือกที่คลายความเครียดด้วยการออกกําลังกาย บางคนก็ไปสปา ไปแช่นํ้าร้อน ไปทํา ice bath ไปเที่ยว หรือบางคนก็ปลีกตัวเข้าหาธรรมชาติ อันนี้เป็นสิ่งที่เราทําได้เลยเพียงแค่เอาตัวเองไปอยู่ในที่ที่เอื้อต่อการผ่อนคลาย หลายครั้งเพียงแค่เราเอาตัวเองออกจากความเครียด ความเครียดก็หายไปเองเลย

อย่างไรก็ตาม การผ่อนคลายทางกายมันจะไม่ยั่งยืนถ้าจิตใจเราไม่ผ่อนคลายตาม เหมือนพาตัวไปเที่ยวทะเลแต่ใจเรากลับยังคิดแต่เรื่องงานหรือสิ่งที่ทําให้เราเครียด แม้ดูเหมือนร่างกายเราสบายแต่จริงๆแล้วจิตใจเรายังว้าวุ่นอยู่ อย่างนี้ก็ถือว่าเรายังไม่ผ่อนคลาย เพราะความเครียดยังคงเป็นเหมือนเงาตามตัวไม่ว่าร่างกายเราจะไปอยู่ที่ไหน ดังนั้นสิ่งสำคัญในการรักษาความเครียด ก็คือการที่เราได้ผ่อนคลายทางจิตใจอย่างจริงจัง

จิตใจคนเราจะผ่อนคลายได้ก็ด้วยการปล่อยวาง ความหมายของการปล่อยวางไม่ได้แปลว่าเรายอมแพ้หรือล้มเลิกในสิ่งที่เราปรารถนา ในทางตรงการข้ามมันคือ การรู้จักวางจิตใจของเราให้ถูกต้องต่อปัญหาที่เกิดขึ้น การยอมรับในสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งๆที่เราไม่อยากให้เกิด การลดความคาดหวังที่บางทีก็เกินจริง การเข้าใจในปัญหา.. การหาคําตอบให้กับปัญหา.. การมีแผนการและแนวทางแก้ไขปัญหาที่ชัดเจน นี้คือสิ่งที่ช่วยให้ใจเราปล่อยวางได้มากขึ้น ซึ่งก็คือการทําใจให้แข็งแกร่งให้มากพอที่จะเผชิญหน้าและยอมรับกับปัญหา หรือความจริงที่เราต้องเผชิญ จะพูดอีกอย่างก็ได้ว่ามันคือการทําใจเราให้ใหญ่กว่าปัญหา

อยากจะแนะนําเทคนิคที่สามารถช่วยให้จิตใจเกิดการปล่อยวางได้ดีขึ้น ดังนี้…

  • แยกแยะระหว่างสิ่งที่เราสามารถเปลี่ยนแปลงได้กับสิ่งที่เราทําอะไรกับมันไม่ได้ บางทีเราก็ไปเครียดในเรื่องที่เราทําอะไรกับมันไม่ได้หรือเปลี่ยนแปลงไม่ได้ ดังนั้นปัญหาที่เราแก้ได้ก็รีบทำไป แต่สิ่งใดที่เราแก้ไข หรือเปลียนแปลงมันไม่ได้ก็ให้ปล่อยวางไป

Stress primarily comes from not taking action over something that you can have some control over.

- Jeff Bezos

  • ควรทำใจยอมรับในสิ่งที่แย่ที่สุดที่อาจจะเกิดขึ้นให้ได้ มีอะไรบ้างคือสิ่งที่แย่ที่สุดที่เรายอมรับไม่ได้? แล้วถ้าม้นเกิดขึ้นจริงๆเราจะต้องรับมือกับมันอย่างไร? นี้คือคําถามที่เราควรเตรียมใจไว้สําหรับเผชิญกับสิ่งที่แย่ที่สุด ผลก็คือ เมื่อเรามีวิธีที่จะรับมือกับสิ่งที่แย่ที่สุดได้แล้ว เรื่องอื่นๆที่แย่น้อยกว่านี้ก็จะรู้สึกเหมือนไม่ได้เป็นปัญหามากและง่ายที่เราจะยอมรับได้มากขึ้น

  • มองภาพให้กว้าง ใช่ที่เรามีความเครียด... ใช่ที่เรามีปัญหามากมายที่ต้องแก้ แต่ในความเป็นจริง มันมีคนที่ลำบากกว่าเราอีกมากมาย อย่าจมอยู่แต่สิ่งที่ทำให้เราเครียดจนมองข้ามสิ่งที่เรามีและควรจะดีใจด้วย ตัวอย่างง่ายๆ เช่น เรายังมีอาหารกินไม่เคยขาด เรายังมีร่างกายที่มีครบสมบูรณ์และแข็งแรง เรายังมีครอบครัวและ มีเพื่อนอีกมากมายที่ยังคอยให้กําลังใจเรา ดังนั้น อย่าไปยอมหรือปล่อยให้ความเครียดมาย้อมจิตใจเราจนทําให้เรามองทุกอย่างให้แย่ไปหมด เพราะยังมีสิ่งดีๆในชีวิตอีกมากมายที่กําลังมองข้าม ฉะนั้น อย่ามองแต่ทุกอย่างในแง่ลบ เพราะ ปัญหาที่เรามองว่าใหญ่มันอาจจะเล็กกว่าที่เราคิดมากก็ได้

  • ให้กําลังใจตัวเองบ้างมันจะยากอะไร ไม่มีใครช่วยให้เราหายเครียดได้ถ้าเราเองไม่เรียนรู้ที่จะปล่อยวาง ต่อให้มีคนมากมายมาช่วยเรา มาแนะนําเรา มาชี้ทางออกให้เรา แต่ถ้าเราไม่สู้ ไม่ช่วยตัวเอง ไม่ยอมเปลี่ยนแปลงอะไรเลย แล้วมันจะมีความหมายอะไร? ดังนั้นเราควรเป็นเพื่อนที่ดีต่อตัวเอง ยิ่งเวลาเครียด.. เวลามีปัญหา เรายิ่งต้องรักตัวเอง.. ต้องให้กําลังใจตัวเอง และดูแลตัวเองให้มาก

  • คิดถึงความตาย ทุกคนเกิดมาแล้วก็มีจุดจบเหมือนกันก็คือตาย แล้วเราจะไปเอาอะไรกับมันให้มากมาย เกิดมาเราก็ไม่มีอะไร ตายไปเราก็เอาอะไรไปไม่ได้ สุดท้ายก็ต้องตายจากกันไป สู้อยู่ให้ดีที่สุดเท่าที่จะทําได้อย่างมีความสุขไม่ดีกว่าหรือ?

  • อย่าสับสนระหว่าง การผ่อนคลาย กับ การกลบเกลื่อน หลายคนพอคิดว่าผ่อนคลายก็คือการทำอะไรก็ได้ที่อยากทำ เช่น ไปดื่มสุรา ไปติดเกมส์ ไปติดหนังติดละคร อย่างนี้ไม่ใช่ทำเพื่อผ่อนคลายแล้ว แต่กลายเป็นการหนีและทำเพื่อกลบเกลื่อนความเครียดที่สะสมอยู่ในใจแล้ว ซึ่งมันไม่ได้แก้ปัญหา ดังนั้นให้เรากล้าที่จะเผชิญหน้ากับปัญหาและแก้ไขมัน อย่ากลบเกลื่อนมันไว้ในใจนานให้เหมือนของเน่า

  • เข้าใจว่าชีวิตไม่สามารถเป็นอย่างที่ใจเราต้องการเสมอ บางทีต่อให้เราทําเต็มที่แล้ว หรือทําดีที่สุดแล้ว แต่สุดท้ายผลมันอาจจะไม่ได้อย่างใจหวัง เราก็ต้องเรียนรู้ที่จะปล่อยวางและยอมรับให้ได้กับสิ่งที่จะเกิดขึ้น เหมือนคําพูดที่ใช้กันว่า “อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด” หรือแบบในภาษาอังกฤษที่เขาพูดกันว่าบางที่เราก็ต้อง “go with the flow” ที่แปลว่าปล่อยให้มันเป็นไปตามกระแส ชีวิตเป็นไปตามกระแสของธรรมชาติที่ไม่เคยเป็นไปตามที่เราหวังอยู่แล้ว ดังนั้นก็ทําให้ดีที่สุด และพอทําแล้วก็อย่าไปข้าดหวังหรือไปอยากให้ผลมันออกมาให้เป็นอย่างใจ ปล่อยให้ผลมันเป็นหน้าที่ของธรรมชาติ และเมื่ออะไรจะเกิด เราก็ยอมรับมันอย่างที่มันด้วยความเต็มใจ

เครียดเพราะไม่ยอมปล่อยวางชีวิต

เหตุผลหลักที่ทําให้เราเครียดก็คือการที่เราไปอยากควบคุมให้ชีวิตเป็นดังใจเราในขณะที่ชีวิตนั้นไม่ได้เป็นสิ่งที่เราจะสามารถไปควบคุมได้ แค่ชีวิตเราเอง เราจะเกิดหรือตาย เราก็ยังไม่สามารถไปเลือกได้ เราจะเจ็บไข้ได้ป่วยวันไหนหรือด้วยโรคอะไรเราก็ไม่มีสิทธิอะไรไปขอ เราได้แค่ยอมรับ และใช้อํานาจอันน้อยนิดที่เรามีเพื่อใช้ชีวิตให้ดีที่สุด

คนที่เครียดก็คือคนที่อยากให้ทุกอย่างเป็นไปตามที่เขาต้องการ ยิ่งอยากให้ชีวิตเป็นอย่างที่เขาต้องการในทุกๆเรื่อง เขาก็จะเครียดกับทุกๆเรื่อง ยิ่งเรายอมไม่ได้ ยิ่งเราอยากให้ทุกอย่างเป็นดั่งใจเรา ยิ่งเรามีความคาดหวังกับอะไร ยิ่งเราไม่ปล่อยวางให้ชีวิตไหลไปตามกระแสของมัน ความเครียดของเราก็ยิ่งเข้มข้น

"What's worse, the falling rain, or your resistance to getting wet? The changing winds, or your battle against them? The grass as it grows, or your demand for it to grow faster? This moment, or your rejection of it?"

Jeff Foster

ดังนั้นเราต้องฝึกที่จะปล่อยวาง ปล่อยให้ชีวิตมันเกิดขึ้นตามวิถีของมัน อย่างคําพูดที่พูดว่า...

"อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด"

การที่เราอยากให้ชีวิตเป็นดั่งใจเราอยู่เสมอๆก็คือการที่เราไม่ยอมปล่อยให้ชีวิตมันเป็นไปตามวิถีของมันซึ่งนี้ก็คือสาเหตุที่ทําให้เราเครียด เพราะมันขัดกับความจริงของชีวิตที่ไม่เคยเป็นไปตามความอยากของเรา อย่างไรก็ดี นี้ก็ไม่ได้แปลว่าเราไม่ควรพยายาม เราควรพยายาม แต่พยายามอย่างเต็มที่ตามกฎของธรรมชาติโดยไม่ขาดหวัง

คนเครียดเพราะนิสัยเครียด

It is not the load that breaks you down but the way you carry it.

Lout Holtz

ไม่มีมรสุมชีวิตไหนที่จะน่ากลัวไปกว่ามรสุมที่เราสร้างขึ้นในใจเราเอง ชีวิตจะเครียดหรือไม่ บางทีอาจจะขึ้นกับวิธีที่เรารับมือกับมัน ในบางครั้งในเรื่องเดียวกัน บางคนอาจจะเครียดมาก แต่บางคนอาจจะไม่เครียดเลย นี่ก็คือความหมายของคําพูดข้างบนที่แปลเป็นภาษาไทยว่า "ชีวิตที่พังไม่ได้เกิดจากของที่เราแบก แต่วิธีที่เราแบกมันต่างหาก" อันนี้ก็หมายถึง คนที่มีนิสัยเครียด ไม่ว่าเขาจะเห็นอะไรก็ตาม หรืออยู่ในสถานการณ์ไหนๆก็ตาม เขาจะทําให้ทุกอย่างเครียดได้เสมอ นิสัยที่คนเครียดมักจะมีก็คือ...

  1. คิดมาก
  2. คิดลบ
  3. กดดันตัวเอง
  4. ไม่ปล่อยวาง
  5. เอาแต่ใจ
  6. พยายามเข้าใจความจริง
  7. เอาความอยากนําความเป็นจริง (อยู่กับความจริงไม่ใช่ความอยาก)

นิสัยพวกนี้ล้วนแต่พาให้เราเครียด ซึ่งไม่ได้ต่างอะไรกับการหาทุกข์ใส่ตัว ความคิดประเภท "ต้องเอาให้ได้ " "ยอมไม่ได้" แทนที่จะคิดว่า "ได้ก็ดีไม่ได้ก็ไม่เป็นไร" หรือจะสรุปโดยย่อก็คือความเครียดเกิดจากการที่เราใช้ชีวิตตามความอยากของเรามากกว่าที่จะปล่อยให้ชีวิตเป็นไปตามความจริง บางทีปัญหาที่เข้ามาในชีวิตมันอาจจะไม่ได้เป็นปัญหาเท่ากับการที่เราไปทํามันให้เป็นปัญหา นี้เขาเรียกว่าคนเครียดเพราะนิสัยเครียด

จะแก้ไขนิสัยเครียดได้ก็ต้องฝึกจิตใจและพฤติกรรมใหม่ ฝึกให้รู้ตัวเวลาที่เราไม่ยอมปล่อยวาง เวลาที่เราไปคิดมากกว่าที่จําเป็น เวลาที่เราเอาแต่ใจอย่างให้ความจริงเป็นไปตามที่เราหวัง เมื่อเรารู้ตัวแล้ว จิตใจเราก็จะเห็นโทษของการยึดติดและปล่อยวาง ขั้นตอนจริงๆมีแค่นี้ ไม่ยากแต่ก็ต้องใช้เวลาฝึกเพื่อให้เกิดความชํานาญในการมองเห็นและรู้จักนิสัยตัวเอง นอกจากนั้น ต้องมีความพร้อมที่จะสละตัวตนของตัวเองด้วยเพื่อลด.. ละ..เลิก.. นิสัยเดิมๆและเปิดรับกับการสร้างนิสัยใหม่

วิธีแก้ความเครียดที่ดีที่สุดก็คือการแก้ไขสิ่งที่ทําให้เราเครียด

หน้าที่ของเราต่อความเครียดนั้นมีสองฝ่ายเสมอ หนึ่ง คือการแก้ปัญหาภายในและ สอง คือการแก้ปัญหาภายนอก หน้าที่ภายในที่เราต้องทําก็คือการวางใจของเราให้ถูกกับปัญหา เมื่อวางถูกต้องแล้วเราก็จะยอมรับและปล่อยวางกับปัญหาภายนอกได้ แต่ขอเน้นย้ำว่าการปล่อยวางไม่ใช่การเพิกเฉย ถ้าเรามัวแต่ปล่อยวางโดยไม่แก้ปัญหาก็เท่ากับว่าเราปล่อยประละเลย อันนี้ก็ไม่ถูก ต้องแก้ปัญหาภายนอกที่ทําให้เราเครียดด้วย ในทางตรงกันข้าม ถ้าเรามัวแต่แก้ปัญหาโดยไม่วางจิตใจเราให้ถูกที่ถูกทาง เราก็จะแก้ปัญหาภายนอกไปด้วยความเคร่งเครียด ดังนั้น หน้าที่ของเราต่อความเครียดก็คือหน้าที่ทางจิตและหน้าที่ทางกิจ ถ้าปัญหายังไม่ได้รับการแก้ไขยังไงมันก็ยังมีเหตุให้เครียดได้เสมอ

ความเครียดช่วยให้เราแข็งแกร่ง

DALL·E 2023-03-03 09.08.13 - expressive oil painting of a sunlight shining upon a tree sapling growing out of a ground
expressive oil painting of a sunlight shining upon a tree sapling growing out of a ground - DALL·E

ต้นกล้าที่ไม่เคยเจอแดดหรือเผชิญกับสิ่งแวดล้อมภายนอกนั้นส่วนมากแล้วรากจะไม่แข็งแกร่ง ชีวิตคนเราก็เหมือนกัน ถ้าไม่เคยทำอะไรผิดผลาด ไม่เคยผิดหวัง ไม่เคยมีความเครียด ไม่ได้เจออะไรที่ยากลําบากก็ทำให้เราขาดประสบการณ์ชีวิต ทำให้เราเป็นคนไม่เข้มแข็งมีจิตใจอ่อนแอ เป็นคนที่ทุกข์ง่าย

การที่เราจะเข้มแข็งได้นั้นเราต้องรู้จักการเผชิญหน้า และเรียนรู้ ที่จะอยู่กับความเครียด ความผิดพลาด ความผิดหวัง ที่เดินเข้ามาในชีวิตเรา ถ้าเรารับมือกับมันได้ ประสบการณ์เหล่านี้จะทําให้เราเป็นคนที่เข้มแข็งมากขึ้นและมากขึ้น นี่เป็นการสร้างโอกาสให้เราได้เปลี่ยนแปลงชีวิต ทำให้เรามีความสุขมากขึ้น และเมื่อเราสามารถทำเช่นนี้ได้อย่างสม่ำเสมอ เราก็จะได้ทักษะทางชีวิตที่สามารถทําให้เรากลายเป็นคนที่แข็งแกร่งและมั่นคงมากยิ่งขึ้น ดังนั้น เราจงขอบคุณความเครียด ความผิดหวัง และขอบคุณปัญหาที่เดินเข้ามาเสมือนเป็นแสงแดดส่องให้ต้นกล้าในใจเราได้เจริญเติบโตอย่างแข็งแรง สมบูรณ์ และมั่นคงต่อๆไป

วิธีปฏิบัติ

ระยะสั้น

  1. พักก่อน
  2. ฝึกที่จะปล่อยให้ชีวิตมันเป็นไปตามวิถีของมันโดยไม่ได้เลิกความพยายาม อย่ายึดติดว่าชีวิตต้องเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ ชีวิตมันไม่เคยเป็นไปตามที่เราหวังอยู่แล้ว ดังนั้น ปล่อยมัน อะไรจะเกิดก็ให้มันเกิด เราแค่ทําหน้าที่ของเราให้ดีที่สุดพอ
  3. จัดการและแก้ไขสิ่งที่ทําให้เราเครียดให้สําเร็จ

ระยะยาว

  1. กล้าที่จะเผชิญหน้ากับสิ่งที่แย่ที่สุดที่อาจจะเกิดขึ้นให้ได้เพราะทุกอย่างเกิดขึ้นได้เสมอ ยอมรับมันให้ได้และเตรียมวิธีรับมือมันไว้
  2. รู้จักและเลิกนิสัยที่ทําให้เราเครียด

ควรพบนักจิตวิทยาหรือจิตแพทย์เมื่อ...

  1. ไม่มีทางออก
  2. อาการไม่ดีขึ้น
  3. พยายามแล้วแต่ไม่ได้ผล

สามารถใช้บริการปรึกษากับนักจิตวิทยาหรือสอบถามรายระเอียดได้ตามลิงก์นี้:

ปรึกษานักจิตวิทยา

สามารถใช้บริการปรึกษากับนักจิตวิทยาหรือสอบถามรายระเอียดได้ตามลิงก์นี้:

ปรึกษานักจิตวิทยา

สามารถให้ความคิดเห็นให้ กําลังใจ และช่วยพัฒนาได้ที่:

แบบฟอร์ม Feedback

ขอบคุณทุกความคิดเห็นและจะเอาไปพัฒนากล่องยาประจําใจครับ

สําหรับท่านที่อยากมีกล่องยาสามัญประจําใจไว้ที่บ้านหรือเป็นของฝากให้คนอื่นเมื่อกล่องยาประจําใจตีพิม สามารถติดต่อสั่งจองได้ที่:

แบบฟอร์มสั่งจองกล่องยาสามัญประจําใจ

หรือ

Line: @schooloflife

Line: @schooloflife

ตัวยาอาจจะใช้ได้กับบางคนแต่อาจจะไม่เหมาะกับบางคน โปรคใช้วิจรณญานและเลือกใช้ได้สิ่งที่เรารู้สึกว่าน่าจะใช้ได้ อะไรใช้ไม่ได้ก็ไม่ต้องใช้

หัวข้อที่เกี่ยวข้อง

บทความที่เกี่ยวข้อง